สรุปสำหรับท่านที่สนใจโปรแกรม Digital Librarian แต่ยังไม่มั่นใจว่า โปรแกรมใช้ได้จริง ใช้ได้ดีหรือไม่ และไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ
- ดูสาธิตการใช้งาน ถ้าเห็นว่าโอเค แต่ยังไม่แน่ใจ
- ทดลองใช้ 1 เดือน ขัดใจอะไร ตรงไหน อยากให้เพิ่มอะไร พูดคุุยแลกเปลี่ยนกัน ถ้าพอใจ แต่ยังไม่มั่นใจ
- ซื้อโปรแกรมแบบสมัครสมาชิกรายปี (on Cloud) เฉพาะ 3 ระบบหลักที่จำเป็น ในราคา 14,560 บาท มาใช้ดูก่อน ถ้าโอเคและต้องการใช้ต่อ สามารถเลือกได้ว่า
- ใช้แบบสมาชิกต่อไป โดยจ่ายค่าใช้บริการรายปี หรือ
- เปลี่ยนเป็นแบบซื้อขาด (Digital Librarian on Premise) นำค่าบริการสมาชิกปีแรกมาหักเป็นส่วนลดเต็มจำนวน
ถ้าไม่โอเค ก็เลิกใช้ ไปหาโปรแกรมอื่น หากต้องการข้อมูล สามารถ export ข้อมูลในรูปแบบ Marc21 หรือสมุดทะเบียนเป็นไฟล์ Excel ได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
ความเสียหายของท่านเพียงประมาณ 15,000 บาท ไม่ใช่หลักหลายหมื่น หลายแสนบาท ถ้าซื้อโปรแกรมอื่นแล้วไม่ได้ดังใจ
หลังหน่วยงานหรือองค์กร ตัดสินใจที่จะนำระบบห้องสมุดอัตโนมัติมาช่วยในการบริหารจัดการห้องสมุด คำถามที่ตามมาคือ คือจะใช้โปรแกรมอะไรดี
สำหรับสินค้าทั่วไป คนส่วนใหญ่จะมองหารีวิว และมักเชื่อตามรีวิว แม้จะรู้ดีว่า อาจมีการปั่นรีวิว แต่ก็ดูจะปลอดภัยกว่า
สำหรับโปรแกรมห้องสมุด เนื่องจากไม่ค่อยมีการรีวิว การตัดสินใจเลือก จึงมักจะเลือกตามๆ กัน โดยดูจากจำนวนลูกค้าเป็นหลัก ด้วยความเชื่อว่า ถ้าโปรแกรมยี่ห้อไหนมีลูกค้าใช้เยอะก็น่าจะการันตีได้ว่า โปรแกรมนั้นต้องดี จนมาในช่วงปีหลังๆ ห้องสมุดจำนวนมากจึงได้ทราบจากประสบการณ์ตรงแล้วว่า ความเชื่อดังกล่าวสวนทางกับความจริง
ในขณะที่ตลอดระยะเวลาที่บริษัทเปิดดำเนินการมาร่วม 20 ปี คำแนะนำที่ให้กับลูกค้าที่ติดต่อเข้ามา ยังคงเป็นการแนะนำให้
1. ดูสาธิตการใช้งานโปรแกรม ทุกๆ โปรแกรมที่สนใจ และอยู่ในระดับราคาที่รับได้ เพื่อให้เห็นด้วยตาตัวเองว่า หากซื้อโปรแกรมนั้นมาใช้จะต้องเจอกับอะไร และ
2.สอบถามความเห็นจากลูกค้าที่เคยใช้บริการโดยตรงว่าบริการหลังการขายเป็นอย่างไร
อย่างไรก็ดี ด้วยข่าวคราวที่ไม่เป็นมงคลของโปรแกรมบางยี่ห้อ ทำให้ขณะนี้ห้องสมุดที่กำลังมองหาโปรแกรมมาใช้ มีความกังวลและหวาดระแวงในการเลือกซื้อโปรแกรมมามากขึ้น และบริษัทเองก็ได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน
บริษัท จึงขอเสนอแนวทาง เพื่อลดความกังวลและลดความเสี่ยงของท่าน โดยให้ห้องสมุดที่สนใจ สามารถทดลองใช้โปรแกรมภายในระยะเวลา 1 เดือน ก่อนการตัดสินใจว่าจะซื้อหรือไม่ โดยไม่มีเงื่อนไขผูกมัด และไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
มีข้อแม้เดียวคือ ท่านต้องดูการสาธิตโปรแกรมเทียบกับที่อื่น เพราะหากท่านไม่ดูสาธิตการใช้งาน ท่านจะไม่ทราบว่า โปรแกรมนี้แตกต่างจากโปรแกรมอื่นอย่างไร
ถ้าลองใช้แล้ว รู้สึกไม่ตรงใจ ตรงไหน อยากให้ปรับปรุง แก้ไขอะไรก็สามารถพูดคุยแลกเปลี่ยนกันได้ หากบริษัททำให้ไม่ได้ หรือดูแล้วอย่างไรก็ไม่โอเค ห้องสมุดเพียงแจ้งยกเลิกการทดลองใช้เท่านั้น
ทั้งหมดนี้ น่าจะทำให้ห้องสมุดเกิดความมั่นใจได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ดี หากยังไม่มั่นใจในเรื่องใดๆ ก็ตาม สามารถเลือกที่จะซื้อโปรแกรมในรูปแบบของการสมัครสมาชิกรายปี (Digital Librarian on Cloud) โดยเลือกใช้เฉพาะระบบที่สำคัญ 3 ระบบหลักได้แก่ 1. ระบบลงทะเบียนวัสดุ 2. ระบบลงทะเบียนสมาชิก 3. ระบบยืมคืน เพื่อชิมลางเรียกความเชื่อมั่นก่อน ในราคาเพียง 14,560 บาทเท่านั้น
หลังจากปีแรก หากไม่ต้องการใช้งานต่อ ห้องสมุดเพียงแค่แจ้งยกเลิก และหากต้องการข้อมูล ห้องสมุดสามารถ Export ข้อมูลในรูปแบบ Marc หรือ Excel ได้แต่หากพอใจกับการใช้งาน ทางห้องสมุดสามารถเลือกได้ว่า
1. จะยังคงใช้งานแบบสมัครสมาชิกต่อไป โดยเสียค่าบริการรายปี (ค่าบริการหลังจากปีแรก แต่ละระบบจะอยู่ที่ประมาณ 50% ของราคาปีแรก) หรือ
2. ต้องการเปลี่ยนเป็นการซื้อแบบซื้อขาด (Digital Librarian on Premise) โดยบริษัท จะนำค่าบริการปีแรกที่ท่านชำระมา หักเป็นส่วนลดแบบเต็มจำนวนจากราคาโปรแกรมแบบซื้อขาด และจะไม่มีการเรียกเก็บค่าบริการติดตั้งโปรแกรมบนเครื่องใหม่ หรือค่าบริการย้ายข้อมูลแต่อย่างใด
ส่วนระบบอื่นๆ ที่ต้องการ ก็ซื้อเพิ่มได้ในภายหลัง โดยไม่กระทบกับข้อมูลที่ใช้งานอยู่แต่อย่างใด
หวังว่า แนวทางที่บริษัท นำเสนอ จะช่วยให้องค์กรสบายใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนะครับ
ขอบคุณครับ
หมายเหตุ : ท่านสามารถศึกษาเปรียบเทียบข้อดีข้อด้อยของการซื้อระบบแบบซื้อขาด (on Premise) และแบบซื้อแบบสมัครสมาชิก (on Cloud) แบบเข้าใจง่ายได้จากบทความ โปรแกรมห้องสมุด Digital Librarian on Cloud – ถึงคราวต้องคลาวด์!!